วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2559

“การด่าพระ”เป็นขบวนการช่วยศาสนา หรือเป็นขบวนการทำลายศาสนากันแน่ ?

     
       “การด่าพระ”เป็นขบวนการช่วยศาสนา หรือเป็นขบวนการทำลายศาสนากันแน่ ?

ตรงนี้ ผู้เขียนขอตอบว่า..การด่าพระออกสื่อ หรือโพสต์ว่าพระในโลกโซเชียลบ่อย ๆ เป็นการสร้างกระแสตอกย้ำให้คนส่วนใหญ่ให้เข้าใจผิดว่าพระส่วนใหญ่ไม่ดี ทั้ง ๆ ที่หากเทียบอัตราส่วนกับพระดีทั่วประเทศกว่าสามแสนรูปแล้วพบว่ามีพระที่ไม่ดีจริง ๆ ไม่ถึง ๑ % เท่านั้น

แล้วอีกอย่างด้วยความที่คนสมัยนี้ ต้องยุ่งวุ่นวายกับการทำมาหากินจนแทบไม่มีเวลา ทำให้เวลาอ่านข่าว..จึงอ่านแบบผ่านๆ แถมบางทีดูแต่พาดหัวที่พาดเอามันเพื่อให้ขายข่าวได้ โดยไม่ได้ไปศึกษาข้อมูลจริงที่ลึกไปกว่านั้น ก็เลยทำให้เข้าใจผิดไปเลยว่า..พระรูปนั้นรูปนี้ไม่ดีจริงๆ

ซ้ำร้ายยังอ่านข้อมูลด้านเดียวทุกวัน โดยไม่มีโอกาสรับข้อมูลอีกด้าน ก็เลยยิ่งเชื่ออย่างสนิทใจว่า พระรูปนั้นไม่ดีจริงๆ โดยไม่ได้พิสูจน์ 

ตรงจุดนี้เอง ถือเป็นความวิบัติที่นำหายนะมาสู่ผู้เสพข่าวอย่างไม่รู้ตัว แล้วสุดท้ายก็หลงสร้างกรรมหนักโดยไปด่าพระกับเขาด้วย จนทำให้ลืมคิดไปว่า การด่าพระ นอกจากจะทำให้คนหมดศรัทธาในพระสงฆ์โดยรวมแล้ว ยังมีอิทธิพลทำให้พฤติกรรมของคนในสังคมเปลี่ยนไป ซึ่งตรงนี้ ผู้เขียนมีประสบการณ์ตรง เพราะมีเพื่อนมาบอกว่า ตอนนี้..เลิกตักบาตร เลิกทำบุญ เลิกไปวัดแล้ว อีกทั้งบางคนยังเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น เนื่องจากเห็นมีแต่ข่าวพระไม่ดี ทั้ง ๆ ที่พระส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย

จะเห็นว่าปัจจุบันสื่อที่ทำลายพระพุทธศาสนามีอิทธิพลสูงมากถึงขนาดทำให้ชาวพุทธเกิดความระแวง มุ่งจับผิดพระเวลาไปวัด จนลืมไปว่าตนมาวัดเพื่อมากำจัดกิเลสในตัวเอง

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป จะทำให้คนเข้าวัดปฏิบัติธรรมลดลงเรื่อย ๆ และเมื่อคนไม่เข้าวัด ก็ไม่มีใครมาบำรุงวัด บำรุงพระ ก็ก่อให้เกิดปัญหาการลาสิกขาตามมาจนเกิดวัดร้างขึ้นมากมาย ซึ่งปัจจุบันก็มีวัดร้างเกือบ ๖ พันกว่าวัดแล้ว และที่เลวร้ายไปกว่านั้น หากคนไม่เข้าวัดศึกษาธรรมะ ก็จะมีผลทำให้ศีลธรรมเสื่อมทรามจนสุดท้ายเราจะอยู่บนโลกนี้ได้ยากเอง เพราะผู้คนต่างเบียดเบียนกัน แถมยังก่อกรรมทำเข็นโดยไม่ละอายและเกรงกลัวต่อบาป

จะเห็นว่า การด่าพระ การตัดต่อภาพพระ เป็นการทำให้ศาสนาเสื่อมโดยตรง เป็นการกระทำที่มีผลมาก เพราะทำให้อายุพระพุทธศาสนาสั้นลง โดยที่ผู้ด่าเข้าใจผิดคิดไปเองว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งถ้าเป็นสิ่งที่ถูกต้องจริง ๆ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงห้ามไม่ให้ว่าร้ายผู้อื่นทำไม (อนูปวาโท)

ดังนั้นในฐานะที่เราเป็นคนพุทธที่อยากช่วยพระพุทธศาสนาอย่างบริสุทธิ์ใจจริงๆ เราควรออกข่าวส่งเสริมพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมากๆ เผยแพร่โพสต์ภาพวัดวาอารามตลอดจนเผยแพร่คำสอนของพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่เราเคารพ เพื่อให้คนศรัทธาอยากเข้าวัดปฏิบัติธรรมกำจัดกิเลสในตัวให้หมดไป และเมื่อเป็นเช่นนี้ พระพุทธศาสนาก็จะเจริญขึ้น จนกระแสศีลธรรมบนโลกใบนี้กลับคืนมา

ฉะนั้น...เราอย่าเป็นผู้หนึ่งที่ทำลายพระพุทธศาสนาโดยรวมเลย

และอย่าเป็นผู้หนึ่ง ที่ทำให้ศาสนาเสื่อมโดยไม่รู้ตัว

อีกทั้งก็อย่าเป็นผู้หนึ่ง ที่ทำให้อายุพระพุทธศาสนาสั้นลงไปอีก

เพราะบาปกรรมตรงนี้ จะนำหายนะมาสู่ชีวิตทุกรูปแบบ

จนเรารับมันไว้ไม่ไหวเลยทีเดียว...

10 ความคิดเห็น:

  1. คนปัจจุบันนี้จิตใจหยาบคายมากไม่รึ้สึกว่าพระเป็นของสูงที่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมาวิเคราะห์วิจารณ์กันกลายเป็นเทีบยเท่ากีนไปหมดศีลก้อไม่มีกลับมาด่าว่าพระที่มีศีลมากว่านรกนะคะ

    ตอบลบ
  2. หยุดเถิดหยุดมาสติกัน อย่าตามผู้อื่นจนลืมตัวตนของตนเองที่แท้จริง บาปบุญมีจริงอย่าทำบาปโดยการด่าว่ากันเลย มันมีผลต่อเราจริงๆ

    ตอบลบ
  3. หยุดเถิดหยุดมาสติกัน อย่าตามผู้อื่นจนลืมตัวตนของตนเองที่แท้จริง บาปบุญมีจริงอย่าทำบาปโดยการด่าว่ากันเลย มันมีผลต่อเราจริงๆ

    ตอบลบ
  4. เราไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหน ตายแล้วไม่ดับสูญ ตายแล้วจะไปอยู่ที่ดีๆ หรือตายแล้วจะไปไหนก้ไป อย่าประมาณนะค่ะเพราะเราไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหนควรตองระวังกาย วา ใจ ให้ดีไม่ควรว่าพระหรือไปทำร้ายใครให้เข้าทุกข์เลยค่ะ

    ตอบลบ
  5. เราไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหน ตายแล้วไม่ดับสูญ ตายแล้วจะไปอยู่ที่ดีๆ หรือตายแล้วจะไปไหนก้ไป อย่าประมาณนะค่ะเพราะเราไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหนควรตองระวังกาย วา ใจ ให้ดีไม่ควรว่าพระหรือไปทำร้ายใครให้เข้าทุกข์เลยค่ะ

    ตอบลบ
  6. เรื่องอย่างนี้ควรนำออกมาเผยแผ่นานแล้ว คงไม่ต้องรอเวลาอีกต่อไป สาธุ

    ตอบลบ
  7. ช่วยกันเผยแพร่เยอะๆ ครับ สงสารคนที่รู้ไม่เท่าทัน
    คงตกนรก กันไม่น้อยเลย

    ตอบลบ